♩ การสอบ Trinity

ทำไมจึงต้องสอบดนตรี???

การเรียนดนตรีประกอบด้วยองค์ประกอบหลายอย่างด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นความรู้เกี่ยวกับดนตรี อาทิ ชื่อตัวโน้ต ค่าของตัวโน้ต อัตราจังหวะ เครื่องหมายทางดนตรี จนถึงความรู้เกี่ยวกับบทเพลง ผู้ประพันธ์ สไตล์เพลงและยุคสมัย นอกจากนี้แล้ว ยังมีความรู้ด้านเทคนิค วิธีการบรรเลงที่ถูกต้อง การทำเสียงที่แตกต่างกันเพื่อให้เหมาะสมและสื่ออารมณ์ได้หลากหลาย การควบคุมเครื่องดนตรี รวมถึงการตีความและการสัมผัสเสียงดนตรีด้วยจิตใจ ซึ่งจะนำไปสู่ความเข้าใจในดนตรีอย่างถ่องแท้

เพราะฉะนั้นแล้ว การเรียนดนตรีจึงจำเป็นต้องเรียนอย่างมีระบบ แบบแผน และทิศทางที่แน่นอน ไม่ใช่เป็นเพียงแค่การเรียนทีละเพลงต่อกันไป แต่จำต้องคำนึงถึงระดับที่เหมาะสม โดยเริ่มต้นจากพื้นฐานและพัฒนาไปสู่เทคนิคและความเข้าใจที่ซับซ้อนขึ้น

ในการเรียนรู้สิ่งใดก็ตาม สิ่งที่ขาดไม่ได้คือการวัดผลอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้ทราบได้ว่านักเรียนมีความเข้าใจและความสามารถในระดับใด ด้านใดบ้าง และมีจุดอ่อนที่ใดที่จำเป็นต้องแก้ไข การเรียนดนตรีก็เช่นเดียวกัน เนื่องจากหากมีระบบการเรียนรู้ที่ชัดเจน ก็จะช่วยให้นักเรียนสามารถพัฒนาทักษะไปได้อย่างต่อเนื่องและมีแบบแผน และทำให้มั่นใจได้ว่ามีพื้นฐานความรู้ที่เพียงพอ ก่อนจะก้าวไปสู่ระดับความสามารถขั้นต่อไปคะ ^^

การสอบเกรด

การให้คะแนน

การให้คะแนนของการสอบเกรด จะแยกให้คะแนนตามแต่ละส่วน ได้แก่ เพลงสอบ เทคนิค และทักษะเสริม เป็นคะแนนเต็มทั้งหมด 100 คะแนน โดยคะแนนส่วนต่าง ๆ แบ่งดังนี้

เพลงสอบ 1 = 22 คะแนน
เพลงสอบ 2 = 22 คะแนน
เพลงสอบ 3 = 22 คะแนน
เทคนิค = 14 คะแนน
ทักษะเสริม 1 = 10 คะแนน
ทักษะเสริม 2 = 10 คะแนน

 

Pass: คะแนนรวม 60 คะแนนขึ้นไป ถือว่าสอบผ่าน

Merit: คะแนนรวม 75 คะแนนขึ้นไป ถือเป็นเกียรตินิยมอันดับ 2

Distinction: คะแนนรวม 87 คะแนนขึ้นไป ถือเป็นเกียรตินิยมอันดับ 1

ผู้สอบทุกคนจะได้รับใบคะแนน (Report Form) ที่เขียนโดยอาจารย์ผู้สอบ ซึ่งจะมีคำอธิบายคะแนนส่วนต่าง ๆ อย่างชัดเจน ผู้สอบที่สอบผ่านทุกคนจะได้รับใบประกาศนียบัตร (Certificate) จากประเทศอังกฤษ ซึ่งจะระบุชื่อผู้สอบและระดับเกรดที่สอบผ่าน โดยหากได้เกียรตินิยมจะมีข้อความระบุไว้ในใบประกาศนียบัตรด้วย

อ้างอิงจาก : http://www.trinityexamsthailand.com/grades

Don`t copy text!